การพ่นฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ในอาคารได้ผลจริงหรือไม่
มาตรการมาแรงที่หลายธุรกิจหยิบยกมาใช้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า คือ การพ่นฆ่าเชื้อไวรัส Covid-19 โดยการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อสูตรพิเศษบรรจุในเครื่องพ่นละอองฉีดทำความสะอาดภายในอาคารสถานที่ ซึ่งสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทยได้ให้ข้อมูลไว้ว่า วิธีนี้ไม่มีความจําเป็นเพราะไม่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ รวมถึงทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณอีกด้วย โดยเฉพาะน้ำยาฆ่าเชื้ออาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้สัมผัส อีกทั้งเสมหะหรือสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจของผู้ป่วยที่ยังไม่แห้งอาจฟุ้งกระจายขึ้นมาขณะฉีดพ่นทำให้เป็นอันตรายได้ ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข ได้แนะนำวิธีเช็ดถูทำความสะอาดซึ่งดีกว่าการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อและสามารถทำได้เอง โดยเลือกสารฆ่าเชื้อให้เหมาะสมกับพื้นผิวสัมผัส ในส่วนผสมตามสัดส่วน ดังนี้
- แอลกอฮอล์ 70% เหมาะสำหรับพื้นผิวที่เป็นโลหะ
- ผงซักฟอกผสมน้ำร้อน 70 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับวัสดุที่เป็นผ้า
- น้ำยาฟอกขาว (6% สารโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (Sodium hypochlorite) 1 ส่วน ต่อน้ำ 99 ส่วน เหมาะสำหรับพื้นที่ผิวที่มีละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (3% H2O2) 1 ส่วน ต่อน้ำ 5 ส่วน แต่ควรระมัดระวังการกัดกร่อนพื้นผิวและการสัมผัสของร่างกาย
รังสี UV และการอบโอโซนฆ่าเชื้อไวรัส COVID-19 ได้จริงหรือไม่
“ละอองฝอยขนาดเล็กจากผู้ติดเชื้อ สามารถลอยได้ไกลถึง 4 เมตร และอยู่ในอากาศได้นานกว่า 45 นาที”
เครื่องฟอกอากาศ ลดการติดเชื้อได้จริงหรือไม่
ทำไมพื้นที่ในอาคาร สถานที่ปิด จึงเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการระบาดของโควิด-19
งานวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ของสหรัฐอเมริกา(Massachusetts Institute of Technology) ได้ระบุผลวิจัยใหม่ที่จะเปลี่ยนความเชื่อเรื่องมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาคารสถานที่ปิด เพราะทุกครั้งที่มีการพูดคุย ตะโกน ร้องเพลง รับประทานอาหาร หรือการไอจามจากผู้ติดเชื้อ จะเกิดละอองฝอยที่มีไวรัสปะปน หรือ Droplet กระจายออกไป ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าที่ตาเห็นและน้ำหนักเบามากจนสามารถลอยในอากาศได้นาน ทำให้ผู้คนในพื้นที่นั้นเสี่ยงรับเชื้อไม่แพ้กัน เพราะอากาศไม่ถ่ายเทเหมือนสถานที่โล่งแจ้ง
หนึ่งในวิธีการตรวจสอบค่าการระบายอากาศในอาคาร คือการวัดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในห้องปิด ซึ่งเกิดจากการหายใจของมนุษย์ ด้วยเครื่องวัดคุณภาพอากาศที่ได้มาตรฐาน โดยตามข้อกำหนดของคณะกรรมาธิการด้านสุขอนามัยอากาศภายในอาคารของสำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งสหพันธรัฐเยอรมัน ระบุว่าในสภาวะอากาศถ่ายเทเพียงพอความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ควรมีค่าน้อยกว่า 1,000 ppm (0.1 vol%) หากสูงกว่านั้นควรเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท เป็นการลดความเข้มข้นของเชื้อไวรัสในอากาศ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่คนจะติดเชื้อได้มากขึ้น แต่การเปิดประตู-หน้าต่างอาจไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ตรงจุดเท่าไหร่ เพราะภายนอกอาคารก็เต็มไปด้วยมลพิษอย่างฝุ่น PM2.5 ควัน ไอเสียจากรถยนต์ ก๊าซพิษ สารเคมี ซึ่งล้วนเป็นปัญหาต่อสุขภาพและการหายใจเช่นกัน
ถ้าจะกลับมาเปิดร้าน ควรเลือกฆ่าเชื้อด้วยวิธีไหน
เครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพสูง IQAir HealthPro Series
Ways to reduce the concentration of viruses in indoor air (2020, Page 10)
การฉีดพ่นฆ่าเชื้อลงบนตัวบุคคลหรือสถานที่, สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย (2020)
กรมควบคุมโรค แนะประชาชนไม่ควรฉีดพ่นละอองฝอยเพื่อทำความสะอาด อาจทำให้เชื้อฟุ่งกระจายได้ (2020)
สรุปสาระสำคัญจากการประชุมแนวทางการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ, กรมอนามัย (2020)
ม.มหิดล ชี้รังสี UV ฆ่าเชื้อไวรัส Covid-19 ได้ หากใช้ถูกวิธี