ผลวิจัยชี้ PM2.5 ส่งผลต่อระดับความเครียดของมนุษย์

ธันวาคม 22, 2020
โดยทั่วไปฝุ่น PM2.5 มักจะเชื่อมโยงกับโรคต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด จนถึงขั้นเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ซึ่งมีงานวิจัยที่จัดทำโดย Dr.Haidong Kan และทีมนักวิจัยอีก 10 คน จากมหาวิทยาลัยฟู่ตัน เมืองเซี่ยงไฮ้ ได้ค้นคว้าและสรุปข้อมูลที่หลายคนอาจยังไม่รู้ถึงอันตรายของ PM2.5 ที่มีผลกระทบต่อร่างกายของมนุษย์ (1) โดยระหว่างทำการเก็บข้อมูล Dr. Haidong พบว่า PM2.5 สามารถเข้าไปกระตุ้นและขัดขวางฮอร์โมนความเครียดตัวหลักของร่างกาย (stress hormones) ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนควรรับรู้ เพื่อช่วยกันลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ในอากาศ ทั้งนี้งานวิจัยของ Dr. Haidong ใช้เวลาศึกษาทั้งหมด 9 วัน และเว้นช่วงหลังการทดลองอีก 12 วัน เพื่อรอสรุปผลการ ทดลองได้อย่างชัดเจน โดยเขาได้ทำการเก็บข้อมูลจากนักศึกษาทั้งหมด 55 คน แบ่งกลุ่มนักศึกษาออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นนักศึกษาที่อาศัยอยู่ในหอพักให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งได้ขอความร่วมมือให้นักศึกษากลุ่มนี้งดทำอาหารและทำความสะอาดห้องเพื่อลดความเสี่ยงจาก PM2.5 ไปด้วย และกลุ่มที่สองเป็นนักศึกษาที่อยู่ในห้องเรียน โดยมีการเปิด – ปิด เครื่องฟอกอากาศสลับกัน เมื่อผ่านช่วงหลังการทดลอง 12 วัน เขาพบว่านักศึกษาทั้ง 2 กลุ่ม มีโมเลกุลบางชนิดเข้าไปปะปนในเลือดและปัสสาวะ ซึ่งวิเคราะห์ได้ว่า PM2.5 สามารถส่งผลกระทบต่อระบบเผาผลาญในร่างกายได้ อีกทั้งในขั้นต้นผลวิจัยเผยว่า PM2.5 มีผลกระทบโดยตรงกับระบบประสาทส่วนกลางของมนุษย์ ในระดับฮอร์โมน และกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ซึ่งจากผลทดสอบของกลุ่มนักศึกษาทั้ง 2 กลุ่ม สรุปได้ว่า 

ฝุ่น PM2.5 มีผลต่อปฏิกิริยาตอบสนองของฮอร์โมนความเครียดตัวหลักหลายชนิด เช่น คอร์ติซอล (cortisol), คอร์ติโซน (cortisone), อะดรีนาลีน (epinephrine) และ นอร์อิพิเนฟริน (norepinephrine) ส่งผลให้ความดันโลหิตสูง เกิดการกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย และเกิดการต่อต้านอินซูลิน

โดยทั่วไปแล้ว เครื่องฟอกอากาศมีหน้าที่ยับยั้งฝุ่น PM2.5 ได้กึ่งหนึ่งจากปริมาณ 53.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ให้เหลือเพียง 24.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีงานวิจัยของ Dr. Robert D. Brook จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ได้ตั้งข้อสังเกตถึงวิธีลดความเสี่ยงจาก PM2.5 ได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA (2) นอกจากนี้การใช้เครื่องฟอกอากาศควบคู่ไปกับการสวมหน้ากากกันฝุ่น ก็สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยในอยู่เมืองที่มีค่าฝุ่นหนาแน่นได้อย่างแท้จริง ดังนั้น สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทดลองครั้งนี้คือการลดลงของฮอร์โมนความเครียดตัวหลักในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เมื่อเปิดใช้เครื่องฟอกอากาศในอาคาร รวมถึงพื้นที่ปิดอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นต้องฟอกอากาศให้สะอาดขึ้น เช่น โรงเรียน บ้าน ออฟฟิศ ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจาก PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(1) Li H, et al. (2017, August 15). Particulate Matter Exposure and Stress Hormone Levels. DOI: 10.1161/CIR.0000000000000659

(2) Brook R, et al. (2017, August 15). “Stressed” about air pollution. DOI: 10.1161/CIRCULATIONAHA.117.029688

เกี่ยวกับ IQAir

IQAir เป็นบริษัทสัญชาติสวิสที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีการฟอกอากาศ โดยมีจุดมุ่งหมายช่วยให้บุคคล องค์กรและชุมชนสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพอากาศและการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วโลก นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2506 IQAir เป็นผู้นำระดับโลกและดำเนินงานในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

สินค้าแนะนำในบทความ

HealthPro 250

เครื่องฟอกอากาศอันดับ 1 สำหรับผู้ป่วยโรคภูแพ้และหอบหืด เทคโนโลยีแผ่นกรอง HyperHEPA หยุดยั้งแม้แต่อนุภาคที่เล็กที่สุด

IQAir HP250 - Rear view- Air purifier

AirVisual Pro

เครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศพกพา พร้อมเลเซอร์สแกนเนอร์ที่ล้ำสมัยตรวจจับ PM2.5 ได้อย่างแม่นยำ แสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ CO2, AQI, อุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์

AirVisual Pro compare side by side