"เพราะฝุ่นมีอยู่ในทุกที่ที่มีอากาศ"
หากคุณเข้าใจสมการนี้ คุณจะเข้าใจธรรมชาติของฝุ่น เพราะในอากาศประกอบไปด้วยแก๊สต่าง ๆ หลายชนิด ทั้ง ไนโตรเจน อาร์กอน ออกซิเจนที่เราใช้หายใจ คาร์บอนไดออกไซด์ที่เราหายใจออกมา รวมถึงอนุภาคต่าง ๆ อย่างไวรัส แบคทีเรีย สารก่อภูมิแพ้ และฝุ่น โดยเจ้าฝุ่นนี้ยังแยกได้อีกหลายขนาด ตามแหล่งกำเนิด ทั้งฝุ่นตามธรรมชาติ และฝุ่นที่มนุษย์สร้างขึ้น
ฝุ่นละอองขนาดใหญ่ 500 – 100 ไมครอน และไม่เกิน 100 ไมครอน เป็นฝุ่นที่เราสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ฝุ่นชนิดนี้จะตกลงสู่ที่ต่ำด้วยแรงโน้มถ่วง เช่น ฝุ่นบนพื้นบ้าน หลังเฟอร์นิเจอร์ เกาะตามตู้เย็น ทีวี เป็นฝุ่นที่ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดและไม่สบายตา เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่ฝุ่น
PM10 หรือ ฝุ่นหยาบ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 – 10 ไมครอน PM2.5 ฝุ่นละเอียด ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน และ PM0.1 ฝุ่นละเอียดขนาดเล็กมาก ไม่เกิน 0.1 ไมครอน ทั้งหมดล้วนเป็นฝุ่นที่มองไม่เห็นและกำเนิดเกิดจากหลายแหล่ง เช่น การจราจร การเผาไหม้ของเชื้อเพลิง การก่อสร้างรื้อถอน อุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นต้น. เหล่านี้เป็นฝุ่นที่มีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา มีน้ำหนักเบาลอยในอากาศได้นานหลายชั่วโมง และยังเป็นฝุ่นที่ใกล้ลมหายใจและเป็นอันตรายต่อร่างกายสุด ๆ โดยสามารถเดินทางเข้าสู่ระบบหายใจและแทรกซึมเข้ากระแสเลือด กระทบสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาว
ฝุ่นตกลงพื้นก็กวาด แต่ยิ่งกวาด ทำไมยิ่งปลิว
แน่นอนว่าฝุ่นขนาดเล็กที่มองไม่เห็น วิธีจัดการที่ดีที่สุดก็คือเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งต้องเป็นเครื่องฟอกอากาศแบบแผ่นกรอง เพราะดักจับฝุ่นเก็บไว้ไม่ให้กลับออกมาในอากาศอีก ต่างจากเครื่องฟอกอากาศบางระบบที่ใช้นวัตกรรมทำให้ฝุ่นตกพื้น เวลาผ่านไปก็ปลิวกลับขึ้นมาใหม่ไม่รู้จบ ซึ่งถ้าจะจัดการฝุ่นและอนุภาคทุกขนาด ไวรัสที่เล็กที่สุดมีขนาด 0.02 ไมครอน จึงควรเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศในระดับ HyperHEPA ที่กรองได้เล็กละเอียดถึง 0.003 ไมครอน จึงสามารถกรองได้อย่างมั่นใจ
ส่วนฝุ่นขนาดใหญ่ รวมถึงขนาดเล็กที่สะสมมาก ๆ ตามพื้น (ลองสังเกต ช่วง PM2.5 หนัก ๆ เดินไปตรงไหนก็รู้สึกเลอะฝุ่นไปหมด) เมื่อตกสู่พื้นแล้วก็ยากที่จัดการทุกวัน เพราะกวาดเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด หนำซ้ำ ยิ่งกวาดยิ่งปลิวไปตรงนั้นตรงนี้บ้าง ปลิวหายไปเลยบ้าง นวัตกรรมอย่างหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ชีวิตคนยุคใหม่ อย่างแบรนด์ที่พัฒนาหุ่นยนต์สำหรับใช้ในบ้านโดยเฉพาะ ก็จะมีการออกแบบให้ทำงานถึง 3 ขั้นตอน คือปัด-ตัก-ดูด ซึ่งช่วยให้ฝุ่นละเอียดลอยขึ้นจากพื้นและถูกดูดออกด้วยแรงดูดที่มีพลัง ต่างจากการกวาดบ้านทั่วไปที่ไม่ได้ถูกดูดออกไปทันที หรือหุ่นยนต์บางประเภทมีเพียงระบบดูดอย่างเดียว ไม่มีแปรงที่คอยตักฝุ่นจากพื้น ทำให้ฝุ่นละเอียดยังคงอยู่
ที่สำคัญ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ดี ต้องมีแผ่นกรองหรือฟิลเตอร์ที่กันไม่ให้ฝุ่นกลับออกมาสู่อากาศ ไม่อย่างนั้นเราก็จะทำความสะอาดกันไม่รู้จบ แต่จะเป็นช่วงฝุ่นมากหรือน้อยก็ไม่ต้องกังวล เพราะ Smart Home ยุคใหม่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นสั่งงานผ่านมือถือ ตั้งเวลาให้ทำงานเอง และถ้าเป็นรุ่นใหญ่ก็จะมาพร้อมแท่นกำจัดขยะอัตโนมัติ ที่จะดูดฝุ่นออกจากถังในเครื่องไปเก็บไว้ในถุงให้ทิ้งง่ายแบบมือไม่ต้องเลอะฝุ่นอีกเลย
อันตรายของฝุ่นไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ได้จบแค่เครื่องฟอกอากาศดีดีเท่านั้น แต่การจัดการฝุ่นสะสมที่บ้านด้วยวิธีที่ลดการฟุ้งกระจายจะช่วยให้ปัญหาฝุ่นลดลงไปอีกมาก ในโอกาสพิเศษนี้ 2 แบรนด์ชั้นนำระดับโลก IQAir เครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพสูงจากสวิตเซอร์แลนด์ ร่วมกับ iRobot หุ่นยนต์ทำความสะอาดจากสหรัฐอเมริกาที่เป็นผู้นำด้านการพัฒนากว่า 30 ปี จนหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเป็นที่นิยมทั่วโลก